วันเสาร์, พฤษภาคม 04, 2567

น้ำเขื่อนป่าสักฯ เหลือแค่ ๑๕% ผอ.เขื่อนฯ “ขอให้เกษตรกรชะลอการเพาะปลูกไว้ก่อน” -ความผิดพลาดในทางบริหารราชการของรัฐบาลเศรษฐา

มัวแต่จะเอาชนะคะคานกับผู้ว่าแบ๊งค์ชาติ เพราะเขาไม่ยอมอ่อนให้ ในสิ่งที่ผิดระเบียบการรักษาเสถียรภาพการคลัง ถึงขั้นให้ อุ๊งอิ๊ง ออกมาชนเอง เหมือนว่ารัฐบาลเศรษฐาจะลืมพันธะหน้าที่หลักในการบริหารจัดการน้ำ ที่ทุกรัฐบาลในรัชกาลที่ ๙ ไม่ยอมพลาด

จะอ้างสถานการณ์ ภัยแล้ง แต่อย่างเดียวไม่ได้แล้ว มันเป็นหน้าที่หัวหน้ารัฐบาลต้องเร่งจัดการเสียแต่ต้นมือ ไม่ใช่ปล่อยมาเป็นเวลา ๖ เดือน จนปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เหลืออยู่เพียง ๑๕% ของความจุเขื่อน ต้องจำกัดการใช้น้ำในทางเกษตรกรรม

“ปริมาณน้ำที่เห็นนั้นน่าเป็นห่วง อย่างที่หลายฝ่ายวิตกกังวล เนื่องจากระดับน้ำที่ลดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเที่ยบกับปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา” ข่าวมติชนรายงานว่า ผอ.เขื่อนฯ “ขอให้เกษตรกรชะลอการเพาะปลูกไว้ก่อน” นั่นหมายถึงพืชหลักต้องรอจนกว่าจะเข้าฤดูฝน

โดยปกติเขื่อนป่าสักฯ จะเก็บกักน้ำในฤดูฝน “ได้ประมาณ ๑,๐๑๙ ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ ๑๐๖ ของความจุอ่างฯ” เพื่อใช้ในฤดูแล้งที่ตามมา แล้วยังเผื่อเหลือเผื่อขาดไปถึงต้นฤดูฝนต่อไปอีกด้วย แต่สภาพตอนนี้น่าห่วงว่าคงจะไม่พอ

ถึงแม้ว่าทางกรมชลประทานจะยืนยันว่า ถึงน้ำจะน้อยก็สามารบริหารจัดการให้เพียงพอใช้สำหรับการอุปโภคบริโภคต่อไปได้อยู่ แต่ปัญหาจะเกิดถ้าในฤดูฝนที่จะมา ฝนฟ้าไม่ต้องตามประมาณการ มีการทิ้งช่วงฝนนานกว่าที่เคย ถึงตอนนั้นปัญหาจะไปถึงการอุปโภคบริโภค

ผอ.โครงการส่งน้ำเขื่อนป่าสักฯ ชี้แจงว่าขณะนี้มีน้ำเหลืออยู่ในเขื่อนประมาณ ๑๔๘.๔๐ ล้าน ลบ.ม. ต้องบริหารจัดการด้วยการปรับลดการระบายน้ำออกจากเขื่อน จากเดิมระบายวันละ ๓.๔ ล้าน ลบ.ม. ตอนนี้ทำได้เพียง ๑.๓ ล้าน ลบ.ม.

อย่างไรก็ดี ผอ.ชูพงศ์ อิศรัตน์ ชี้ว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์ “ฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน” ก็ยังไปขอกรมฝนหลวงปฏิบัติการทำฝนหลวงให้ตกในพื้นที่เกษตรกรรม “และเพิ่มปริมาณน้ำให้กับเขื่อนป่าสักฯ” ได้อยู่แล้ว แต่การจะรอให้หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนั้นจะดีหรือ

รัฐบาลเศรษฐาไม่ควรที่จะปล่อยให้สถานการณ์หมิ่นเหม่ จน ผอ.เขื่อนต้องเตือนเกษตรกรอย่าเพิ่งปลูกพืชหลัก ข้อจำกัดอย่างนี้ไม่ทำให้ประเทศมีสมรรถนะการผลิตทางเกษตร ไปแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเวียดนามได้

(https://www.matichon.co.th/region/news_4558587) 

10 เดือน รัฐบาลเพื่อไทย แพทองธาร ยืนยัน "ตัดสินใจถูก" จัดตั้งรัฐบาลผสม 10 เดือน รัฐบาลเพื่อไทยมีผลงานอะไร


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นำทีมแถลงผลงานของพรรคในช่วง 10 เดือน

10 เดือน รัฐบาลเพื่อไทย แพทองธาร ยืนยัน "ตัดสินใจถูก" จัดตั้งรัฐบาลผสม

3 พฤษภาคม 2024
บีบีซีไทย

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นำทีมแถลงผลงานของพรรคในช่วง 10 เดือนของการจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน ชูนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ 4 รอบ และใช้เวทีแถลงผลงานของพรรค กล่าวถึงอุปสรรคด้านนโยบายทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

พรรคเพื่อไทยใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง ในการแถลงผลงานในช่วง 10 เดือน ภายใต้การนำของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในหลายด้าน โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวในช่วงแรกว่า พรรคเพื่อไทย "ตัดสินใจถูกต้องมาก" ในการจัดตั้งรัฐบาลผสม เมื่อ 10 เดือนที่แล้ว

"ถ้าไม่เลือกจัดตั้งรัฐบาลผสม คงไม่มีโอกาสที่จะเริ่มแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่สะสมเป็นเวลานาน" น.ส.แพทองธาร กล่าว

ในการกล่าวเปิดของ น.ส.แพทองธาร ได้เน้นย้ำถึงการขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรค ตั้งแต่การเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท การขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ ในวันที่ 1 พ.ค. การปรับโครงสร้างของส่วนราชการและการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ประเทศไทยกลับมาเป็นฮับของการบินและการเงินของอาเซียน รวมทั้ง การเจรจาการค้ากับต่างประเทศที่นำโดยนายเศรษฐา

ในช่วงหนึ่ง หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า การที่กฎหมายได้พยายามทำให้ ธปท. เป็นอิสระจากรัฐบาล เป็นอุปสรรคอย่างมากในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เนื่องจากนโยบายด้านการคลังถูกใช้งานด้านเดียวมาโดยตลอด จนทำให้หนี้สูงขึ้นทุกปี จากการตั้งงบประมาณขาดดุล ในขณะที่ประเทศไทยมีหนี้ที่สูงขึ้นทุกปี

"ถ้านโยบายทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ยอมเข้าใจ และไม่ยอมให้ความร่วมมือ ประเทศจะไม่มีทางลดเพดานหนี้ได้" น.ส.แพทองธารกล่าว

การกล่าวถึง ธปท. ของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลประกาศความชัดเจนของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ก่อนตามมาด้วยการส่งหนังสือด่วนถึงคณะรัฐมนตรีของ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่เสนอให้ทบทวนกลุ่มเป้าหมายของโครงการว่า ควรให้เฉพาะกลุ่มผู้เปราะบาง 15 ล้านคน และแสดงความกังวลถึงผลกระทบต่อภาระทางการคลังในระยะยาว รวมทั้งผลกระทบต่อโครงการระยะยาวที่แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างในด้านต่าง ๆ

ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่าในช่วงเกือบ 1 ปีที่ก้าวเข้ามาอยู่ในพรรคเพื่อไทย ได้ฟังปัญหาของประชาชนตั้งแต่ช่วงเลือกตั้ง ผ่านช่วงจัดตั้งรัฐบาลที่ถือเป็นช่วงเจ็บปวด แต่เชื่อว่าหลังจากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว รัฐบาลได้ทำอย่างเต็มที่ และเชื่อว่า 10 เดือนที่ผ่านมามีผลงานเป็นที่ประจักษ์

"ถ้าเราไม่ได้มาวันนี้ ป่านนี้เรื่องฟรีวีซาจีนไปถึงไหนก็ไม่รู้ การท่องเที่ยวคิดเป็น 20% ของจีดีพีไทยเป็นอย่างน้อย" นายเศรษฐากล่าว

นายเศรษฐา กล่าวต่อไปว่า การเดินทางไปเปิดการเจรจาการค้ายังต่างประเทศ 14 ครั้ง เหนื่อยยาก ลำบาก เพราะประเทศไทยไม่ได้อยู่ในเวทีโลกมาเป็นเวลานาน จึงต้องไปประกาศว่า ประเทศไทยพร้อมแล้วสำหรับการค้าการลงทุน

"เมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ไมโครซอฟต์ ประกาศมาลงทุนในประเทศไทย แต่ก็มีคนไปเปรียบเทียบกับมาเลเซีย อินโดนีเซีย ว่าเขาประกาศตัวเลข แต่ของเราไม่ประกาศตัวเลข ด้วยความเคารพ ของเขาเป็นสเตจ 2 (ระยะที่ 2) ของเราเป็นสเตจ 1 (ระยะที่ 1) มี 1 เดี๋ยวก็มี 2 มา ผมมั่นใจว่าการลงทุนจะทยอยตามมาอย่างต่อเนื่อง" นายเศรษฐากล่าว



นายกฯ ยังกล่าวถึงความพยายามแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชนว่า รัฐบาลได้เจรจากับธนาคารใหญ่เพื่อลดดอกเบี้ยให้กับประชาชน

"ถ้าเกิดเราไม่อยู่ตรงนี้ คงไม่มีใครไปพูดคุยกับท่านผู้ว่าแบงก์ชาติให้ลดดอกเบี้ย ท่าน (ผู้ว่าการ ธปท.) ยึดความเป็นอิสระเป็นหลัก แต่ผมก็พูดแล้วว่า อิสระไม่ได้หมายความว่าอิสระจากความทุกข์ประชาชน ก็พูดไปด้วยวาจาที่สุภาพในฐานะผู้ใหญ่ที่พูดคุยกัน ถ้าเกิดท่านทำก็ดี ถ้าเกิดถ้าไม่ทำรัฐบาลก็หาวิธีอื่น จึงไปพูดคุยกับธนาคารอีก 4 แห่ง" นายเศรษฐา กล่าว

สำหรับการลดดอกเบี้ย นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า รัฐบาลได้เจรจาขอลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% กับธนาคารจำนวน 11 ธนาคาร เพื่อช่วยลูกค้ารายเล็กกลุ่มเปราะบาง ซึ่งการลดดอกเบี้ยเริ่มต้นในวันที่ 1 พ.ค. โดยมาตรการจะมีอายุ 6 เดือน

ในการแถลงผลงานของพรรคเพื่อไทย ที่สมาชิกสลับสับเปลี่ยนขึ้นมาบรรยายในแต่ละด้าน ได้เน้นย้ำถึง การเสียโอกาส หากเพื่อไทยไม่จัดตั้งรัฐบาลผสม และคำวิจารณ์ของฝ่ายค้านต่อนโยบายหลายด้าน

เผ่าภูมิ โต้ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ได้หมุนเข้าแต่มือ "เจ้าสัว"

โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต นโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย เพิ่งมีความชัดเจนถึงรายละเอียดโครงการและแหล่งเงินเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา

ความชัดเจนล่าสุดของวันที่โครงการนี้เริ่มขับเคลื่อน คือ ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

นี่คือหนึ่งในโยบายที่พรรคเพื่อไทยนำมาแถลง โดยนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.กระทรวงการคลัง ระบุว่า โครงการนี้จะสร้างพายุหมุน 4 ลูกให้กับระบบเศรษฐกิจไทย ผ่านเม็ดเงิน 5 แสนล้านบาท พร้อมตอบโต้ฝ่ายค้านที่ตั้งข้อสังเกตว่า เม็ดเงินกำลังจะหมุนไปเข้ามือ "เจ้าสัว" ว่า เป็นการมองเศรษฐกิจที่ไม่ครบทั้งระบบ

"เราถูกตั้งคำถามเงินก้อนนี้กำลังจะหมุนไปไหน คำถามจากฝ่ายค้าน เงินจะเข้ารายใหญ่เจ้าสัวอย่างเดียวหรือไม่ นี่คือการมองระบบเศรษฐกิจที่ไม่ครบระบบ เพราะ เมื่อประชาชนเดินเข้าไปซื้อของร้านค้า จะส่งให้เกิดการผลิต การจ้างงาน ร้านค้าเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดเม็ดเงินลงสู่หน่วยเศรษฐกิจที่เล็กที่สุด คือ ประชาชน"


นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.กระทรวงการคลัง ใน ครม.เศรษฐา 1/1

นายเผ่าภูมิ ได้ไล่เรียงพายุหมุนแต่ละลูกที่ทีมงานพรรคเพื่อไทยคาดหวังว่าจะเกิดข ไว้ดังนี้
  • พายุหมุนลูกที่ 1 จากประชาชนไปสู่ร้านค้า
ก่อให้เกิดธุรกรรมเป็นหมื่น ๆ ล้านครั้ง ภายใต้เงื่อนไขการใช้เงินภายใน 6 เดือน ในอำเภอตามบัตรประชาชน เม็ดเงินจะถูก "อัดกระแทก" สู่ระบบเศรษฐกิจ 878 อำเภอทั่วประเทศพร้อมกัน
  • พายุหมุนลูกที่ 2 จากร้านค้าสู่ร้านค้า
เกิดธุรกรรมอีกหมื่น ๆ ล้านครั้ง ในระบบเศรษฐกิจ การใช้จ่ายรอบนี้ ไม่มีข้อจำกัดในด้านพื้นที่ ขนาดร้านค้า ก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจข้ามภาค ข้ามจังหวัด
  • พายุหมุนลูกที่ 3 จากกำลังซื้อ-การผลิต วนกลับมายังร้านค้าอีกรอบ
เมื่อประชาชนเดินเข้าไปซื้อของร้านค้า จะส่งให้เกิดการผลิต การจ้างงาน ร้านค้าจึงมีสถานะเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดเม็ดเงินลงสู่หน่วยเศรษฐกิจที่เล็กที่สุด
  1. พายุหมุนลูก ที่ 4 พายุหมุนเทคโนโลยีที่เกิดจากแอปพลิเคชัน
เกิดการกระจายเงินผ่านเทคโนโลยีขั้นสูง จากระบบการชำระเงินที่ถูกสร้างขึ้นใหม่หรือ "ซูเปอร์แอป"

รมช.คลัง อธิบายถึง ซูเปอร์แอปว่า จะมีลักษณะเป็นวอลเล็ตกลางขนาดใหญ่ เชื่อมกับธนาคารต่าง ๆ อย่างมากมาย ด้วยระบบโอเพนลูป ประชาชนที่มีแอปฯ ธนาคาร ไม่ว่าธนาคารใด จะปรากฏไอคอนดิจิทัลวอลเล็ตในแอปฯ ซึ่งสามารถใช้จ่ายผ่านแอปฯ ของธนาคารได้

“ซูเปอร์แอป” สร้างยากแค่ไหน ทำไมนักพัฒนาฯ กังวลความสามารถรัฐ
ธ.ก.ส. มีสภาพคล่อง-สถานะการเงิน แข็งแกร่ง พอไหม สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

รถไฟฟ้า 20 บาท ครบทุกสายปี 2568

น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังเข้ามาเป็นรัฐบาลไม่ถึง 1 เดือน กระทรวงคมนาคม สามารถปรับลดราคารถไฟฟ้า 2 สาย ให้เหลือ 20 บาท ตลอดสายได้สำเร็จ ได้แก่ สายสีม่วง และสีแดง และประกาศว่า จะทำให้รถไฟฟ้าทุกสาย ทุกสี มีราคาค่าเดินทางเหลือ 20 บาท ภายในปี 2568

"ภายในปีหน้า พี่น้องประชาชน เดินทางเปลี่ยนเส้นทางกี่เส้นทางก็ได้ และเข้าออกสายรถไฟฟ้าภายใน 30 นาที ด้วยราคา 20 บาทเท่านั้น" น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

น.ส.ธีรรัตน์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปรับลดราคารถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีแดง ส่งผลให้มีผู้โดยสารทั้ง 2 สาย เพิ่มขึ้น 18% และการปรับลดราคาไม่ได้เป็นเพียงการลดรายจ่ายให้กับประชาชน แต่เป็นการสร้างรายได้ให้กับภาครัฐด้วยอีกทางหนึ่ง จากการสร้างเศรษฐกิจใหม่ ๆ ในพื้นที่ที่รถไฟฟ้าไปถึง เกิดทำเล การค้าขาย และรัฐสามารถจัดเก็บภาษีที่ดินและภาษีอสังหาริมทรัพย์ได้ตลอดเส้นทาง

นอกจากนี้ รัฐบาลจะผลักดันพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตั๋วโดยสารร่วม เพื่อให้สามารถกำหนดราคาโดยสารในราคาถูกได้อย่างยั่งยืน จัดตั้งกองทุนสะสมรายได้เพื่อชดเชยส่วนต่างของค่าโดยสาร โดยจะขยายรวมไปถึง เรือ รถเมล์ และระบบ คมนาคมอื่น ๆ



นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลได้เดินหน้าเป้าหมายในการดำเนินโครงการศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคหรือโลจิสติกส์ฮับ ซึ่งเป็นโครงการสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับมาอีกครั้ง

เขาระบุว่า ที่ผ่านมาในช่วง 10 เดือน รัฐบาลได้เร่งรัดการก่อสร้างรถไฟรางคู่ทุกเส้นทาง เชื่อมต่อระบบราง ศูน์กลางเมืองหลวงไปยังเหนือ กลาง อีสานใต้ โดยภายในสิ้นปี 2567 รถไฟรางคู่จะก่อสร้างแล้วเสร็จรวมระยะทาง 614 กิโลเมตร พร้อมดำเนินการก่อสร้างระยะที่ 2-3 ทันที

สำหรับแผนการทางคมนาคมที่พรรคเพื่อไทยประกาศในระยะถัดไปได้แก่
  • ภายในปี 2568 การก่อสร้างรถไฟทางคู่อย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดระยะเวลาเดินทางได้ 30%
  • ยกเลิกรถไฟร้อนชั้น 3 เปลี่ยนรถไฟร้อน เป็นรถไฟปรับอากาศทุกระบบ ทุกเส้นทาง เริ่มได้ในปี 2568
  • เร่งรัดการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 โคราช-หนองคาย เพื่อเชื่อมการขนส่งจากไทย ที่ จ.หนองคาย ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ของ สปป.ลาว จนถึงจีน
  • ขยายท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เฟส 3
  • เดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ สร้างท่าเรือน้ำลึกเพิ่มอีก 2 แห่ง ที่ จ.ระนอง และชุมพร
  • เพิ่มประสิทธิภาพของสนามบินนานาชาติ 4 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต ภายในปี 2573 สามารถรองรับผู้โดยสารจากเดิม 110 ล้านคนต่อปี เป็น 150 ล้านคนต่อปี
  • เดินหน้าศึกษาสนามบินแห่งใหม่ ได้แก่ สนามบินล้านนา และสนามบินอันดามัน
ดันซอฟต์พาวเวอร์ ตั้งเป้าร้านอาหารไทย เกิดทั่วโลก 1 แสนแห่ง ภายในปี 2570

น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ในช่วง 7 เดือน ที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้ส่งให้ภาพยนตร์ไทยและหนังสือไทยไปปรากฏโฉมในต่างประเทศแล้วหลายเรื่อง รวมทั้งซีรีส์วายที่กระทรวงพาณิชย์ผลักดันจน โดยอ้างว่าทำให้เกิดฐานคนดูในหลายประเทศ และล่าสุดการจัดเทศกาลมหาสงกรานต์ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าร่วมเทศกาลกว่า 1.9 ล้านคนในช่วง 21 วัน

น.ส.จิราพร ยังกล่าวถึงโครงการหนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ ว่าจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนในเดือน มิ.ย. นี้ เธอกล่าวว่า นี่คือโครงการที่จะช่วยเปลี่ยนโครงสร้างรายได้ของประชาชนคนไทย ผ่านการพัฒนาทักษะในอุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ เช่น อาหาร ภาพยนตร์ ละคร และซีรีส์ ดนตรี กีฬา แฟชั่น หนังสือ โดยมีเป้าหมายพัฒนาทักษะแรงงานไทยและสร้างงานไม่ต่ำกว่า 20 ล้านตำแหน่ง พร้อมตั้งสถานีโทรทัศน์ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อให้คนไทยมีพื้นที่ในการแสดงศักยภาพ



สส.จากเพื่อไทย รายนี้ กล่าวว่า "ในปี 2570 เราจะเห็นสินค้า บริการ และศักยภาพของคนไทยทยอยเดินทางเข้าสู่ระดับโลก ระดับสากล อย่างต่อเนื่อง" โดยแจกแจงอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ในด้านต่าง ๆ ดังนี้
  • ร้านอาหารไทย เพิ่มขึ้น 1 แสนร้าน ทั่วโลก
  • มวยไทย ถูกสอนในยิม 1 แสนแห่ง
  • หนังสือไทย ถูกแปล และขายใน ร้านหนังสือต่างประเทศ
  • ศิลปินไทย วงดนตรีไทย ที-ป็อป จะต้องไปแสดงเวทีนานาชาติ
  • จดทะเบียนไอพีหรือ ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property : IP)เฟสติวัล เทศกาลสงกรานต์ไทย
  • ภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ สร้างกระแสความนิยม อย่างกว้างขวาง
  • ประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางของกองถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลก
แก้รัฐธรรมนูญ เร่งรีบไม่ได้

น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ขึ้นกล่าวแถลงความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ภายใน 4 ปีของรัฐบาล จะมุ่งหน้าให้มีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้สำเร็จ

น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า การจะนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่สามารถจะทำได้โดยง่ายและทำได้ในระยะเวลาอันสั้น เพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศที่การแก้ไขต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน อีกทั้ง กรอบกติกาของรัฐธรรมนูญปี 2560 ยังวางเงื่อนไขให้แก้ไขได้ยาก ดังนั้น ทุกจังหวะก้าวเดินไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเดินอย่างมียุทธศาสตร์

พรรคเพื่อไทยจึงเดินยุทธศาสตร์ 2 ขา ทั้งผ่านคณะรัฐมนตรี ที่เสนอกร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ และทางฝ่านนิติบัญญัติที่พรรค ยื่นแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เพื่อรอการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว

น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า แม้อาจมีหลายฝ่าย "ไม่ถูกใจ" เกี่ยวกับคำถามในการประชามติและจำนวนครั้ง [ในการทำประชามติ] แต่ยืนยันว่า ยุทธศาสตร์ที่ค่อย ๆ ก้าวเดินดีกว่าการเร่งรีบจนอาจเกิดเหตุที่ทำให้ต้องอยู่กับรัฐธรรมนูญฉบับเดิมอีกหลายปี

"การค่อย ๆ เดินไปทีละนิดการค่อย ๆ สะสม ชัยชนะไปทีละขั้นตอน ย่อมดีกว่าการรีบเร่งเข้าสู่เส้นชัยแล้วสะดุดหยุดล้มกลางทาง เพราะนั่นหมายความว่าจะคว้าน้ำเหลว"

สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ล่าสุด อยู่ในขั้นของการพิจารณาว่า จะแก้ไขกฎหมายประชามติอย่างไรและกี่ครั้ง โดยรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา เตรียมเดินหน้าเสนอแก้ไขกฎหมายประชามติ ยกเลิกระบบ “เสียงข้างมาก 2 ชั้น” หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เคาะให้ทำประชามติ 3 ครั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

การแถลงของพรรคเพื่อไทย ยังได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในนามของพรรคเพื่อไทย จำนวน 9 คน 9 จังหวัด ในภาคเหนือและอีสาน ได้แก่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ สุโขทัย นครพนม มหาสารคาม ยโสธร และอุดรธานี โดยว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.พะเยา ได้แก่ นายอัครา พรหมเผ่า น้องชายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

https://www.bbc.com/thai/articles/cw94gjzn99zo

เมืองที่คน #ตกท่อ ต้องไม่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ช่วยกันหยุดปัญหานี้ด้วยการร้องเรียนผ่าน Traffy Fondue


พรรคก้าวไกล - Move Forward Party
8h ·

เมืองที่คน #ตกท่อ ต้องไม่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ช่วยกันหยุดปัญหานี้ด้วยการร้องเรียนผ่าน Traffy Fondue เพียง 4 ขั้นตอน
.
1.แอด @TraffyFondue ใน LINE
2.กดแชทเพื่อเข้าห้องพูดคุย
3.พิมพ์เรื่องร้องเรียน ส่งรูปสถานที่และจุดเกิดปัญหา พร้อมรายละเอียด
4.แชร์โลเคชันด้วย จะไปถึงจุดเกิดปัญหาเร็วขึ้น
.
พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้กรุงเทพมหานคร การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เอาจริงเอาจังกับการทำงานของผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ปล่อยปละละเลย ไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่รัดกุม และดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะโครงการนำสายไฟลงดินที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง กระทบความน่าเชื่อถือของโครงการภาครัฐและกระทบสวัสดิภาพความปลอดภัยของประชาชน เหตุการณ์ความสูญเสียเช่นนี้ ไม่ควรเกิดขึ้นอีก

ใคร ? สร้างวาทะกรรม









สิ่งที่เคยด่าคนอื่น ตัวเองทำหมด

https://www.facebook.com/100090471065009/videos/739215815050904/?t=0
ประเวศ ประภานุกูลกิจ 

.....

Voranai Vanijaka
@voranai

20 กว่าปีที่แล้ว พรรคไทยรักไทยได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการเมืองไทย เอากลยุทธ์ marketing ของภาคธุรกิจมาทำการเมือง ลํ้ายุคลํ้าสมัย ประสบความสำเร็จมากมาย

แต่วันนี้ไม่ใช่วันนั้น วันนั้นไม่ได้มีตัวเล่นใหม่ พรรคก้าวไกล 10ปีที่ผ่านมาทั้งโลกและสังคมไทยเปลี่ยนไปเยอะ

Social media เปลี่ยนเกม Digital Footprint เปลี่ยนเกม

ยกตัวอย่าง คุณอุ๊งอิ๊งค์กล่าวว่า “คู่แข่งของเราสร้างวาทกรรมต่างฯ… ทำไม่เป็น…ผิดสัญญา”

แต่ในเวทีเดียวกัน คุณธีรรัตน์กล่าวว่า “พรรคอื่นคิดไม่เป็น… ไม่เคยมีประชาชนในหัวใจ”

ทั้ง 2 ประโยคเป็น digital footprint หยิบยื่นให้ฝั่งตรงข้ามใช้เพื่อตบหน้าว่าย้อนแย้ง ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง…

ไม่ควรหมกมุ่นกับเรื่องแก้ต่างตระบัดสัตย์ ไม่ควรหมกมุ่นกับเรื่องรอ10เดือนไม่ได้ ควรก้าวข้ามได้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามเพียงงัด digital footprint ออกมา สุดท้ายแล้วก็วนเวียนทะเลาะเรื่องเดิม

ทั้งเวทีแต่ต้นจนจบควรปล่อยวางอดีต โฟกัสอนาคต ไม่ต้องพูดเรื่อง “หัวใจ” เอาเรื่อง “นโยบาย วิสัยทัศน์” อย่างเดียว

แต่เรื่องวิสัยทัศน์&นโยบายจะถูกกลืนหายไป หากหมกมุ่นกับเรื่องอดีต ตอบโต้กับก้าวไกล และทะเลาะกับแบ๊งค์ชาติ วนเวียนในเรื่องเดิมฯ

สลิ่มเฟส 1 กับ 2 ยังไงก็ไม่เอาคุณอยู่แล้ว สลิ่มเฟส3 ยังไงเขาก็รักคุณ

แต่วันนี้ไม่ใช่ 10 หรือ 20ปีที่แล้ว วันนี้สลิ่มเฟส3 มีน้อยกว่าเฟส2 เพราะฉะนั้น อย่าหมกมุ่นกับตรงนี้ เลิกวนเวียนทะเลาะเรื่องเดิม

สลิ่มทั่วไป ที่ไม่ใข่คือเฟส 1,2,หรือ3 คือกลุ่มที่คุณต้องโน้มน้าวจิตใจ #พรรคเพื่อไทย



Pleasure Squard ท่านผู้นำขอจิ้มก่อน วงในเผย! "คิม" เลือกสาวบริสุทธิ์ 25 คนต่อปี สร้างความสำราญโดยเฉพาะ


วงในเผย! "คิม" เลือกสาวบริสุทธิ์ 25 คนต่อปี สร้างความสำราญโดยเฉพาะ

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

May 3, 2024
#ข่าวเวิร์คพอยท์ #ข่าวล่าสุดวันนี้ #ข่าวออนไลน์23

https://www.youtube.com/watch?v=YaIVKEuU63g
.....

ประเวศ ประภานุกูลกิจ 
10 hours ago·

(cherries)"เว็บไซต์ มิร์เรอร์ รายงานว่า ผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือ ออกมาแฉเบื้องลึกเบื้องหลังในแดนบ้านเกิดว่า ผู้นำคนปัจจุบันอย่าง "คิมจองอึน" มีธรรมเนียมเลือกเด็กสาวบริสุทธิ์ 25 คนต่อปี เพื่อเข้า "กองสร้างความสำราญ" (Pleasure Squad) ซึ่งมีภาระหน้าที่ก็เป็นไปตามชื่อสังกัดเลย
พัคยอนมี (yeonmi_park) สาวเกาหลีเหนือคนดังวัย 30 ปี ที่แปรพักตร์ออกมาสู่โลกภายนอกตั้งแต่ปี 2007 ก่อนจะกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ และนักรณรงค์ด้านสิทธิความเป็นมนุษย์ จนมีผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียมากมาย เป้นผู้ออกมาเผยแพร่เรื่องดังกล่าว
30 +
ดูภาพทั้งหมด
โดยสาวๆที่ได้รับเลือกให้ "สร้างความสำราญ" นั้น งานหลักคือ การทำงานบ้านในคฤหาสน์ของผู้นำเกาหลีเหนือ ไปจนถึงปรนนิบัติและสร้างความสำราญต่างๆ รวมไปถึงเรื่องเซ็กซ์ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เด็กสาวเหล่านี้จะถูกคัดเลือกมาจากโรงเรียนในระดับมัธยมฯ ซึ่ง คิมจองอึน มักจะทำการเลือกเฟ้นด้วยตนเองเสมอ
ขั้นตอนการจะเป็น 25 คนสุดท้ายได้นั้น ทางกองทัพจะตรวจสอบสถานะครอบครัวของเด็กสาว ถ้าเคยมีประวัติว่าญาติหรือมีสมาชิกในครอบครัวหลบหนีออกจากเกาหลีเหนือ, มีญาติในเกาหลีใต้หรือประเทศอื่นๆ ก็จะโดนปัดตกและลงโทษทันที
30 +
ดูภาพทั้งหมด
เมื่อประวัติขาวสะอาดแล้ว ขั้นต่อไปคือการตรวจสุขภาพเพื่อยืนยันว่าพวกเธอ "บริสุทธิ์" จริงๆ ของพวกเธอ ซึ่งต้องได้รับการตรวจทางการแพทย์อย่างเข้มงวด นอกจากพรหมจารีย์แล้ว ตำหนิบนร่างกายก็สำคัญ เช่น รอยแผลเป็นเล็กๆ ก็อาจทำให้ตกรอบได้เช่นกัน
พัคยอนมี เผยอีกว่า สาวๆที่ผ่านการคัดเลือกจะถูกส่งตัวไปยังกรุงเปียงยาง แน่นอนว่าบรรดาผู้ปกครองล้วนยินยอมให้ลูกสาวเข้าร่วมโครงการนี้ โดยมองว่าเป็นทางที่ไม่ต้องทนทุกข์จากความอดอยาก เพราะมีค่าตอบแทนเดือนละประมาณ 60,000 - 120,000 บาท ซึ่งพวกเธอจะได้เกษียณจากงานนี้เมื่อตอนเข้าสู่วัยเบญจเพส และบางส่วนจะได้แต่งงานกับข้าราชการระดับสูงหรือบอดีการ์ดของท่านผู้นำต่อไป
อัลบั้มภาพ 30 ภาพ
อัลบั้มภาพ 30 ภาพ ของ วงในเผยเอง! "คิมจองอึน" เลือกสาวบริสุทธิ์ 25 คนต่อปีเพื่อ "สร้างความสำราญ" โดยเฉพาะ
(https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=373379825687717&id=100090471065009&ref=embed_post)





ข่าวเกี่นวข้อง
(https://www.mirror.co.uk/news/weird-news/kim-jong-un-picks-25-32703053)


เสวนาออน์ไลน์ การตรวจสอบมาตรา 112​: งานวิจัยเกี่ยวกับกฎหมายและสิทธิมนุษชนในยามวิกฤติในประเทศไทย 6-8 พฤษภาคม 8-9.30 น. เวลาแมดิสัน | 20-21.30 น. เวลาไทย ใครสนใจ ลงทะเบียน Zoom


tyrell haberkorn @turtelista
·4h

เสวนาออน์ไลน์ 
การตรวจสอบมาตรา 112​: งานวิจัยเกี่ยวกับกฎหมายและสิทธิมนุษชนในยามวิกฤติในประเทศไทย 

6-8 พฤษภาคม 8-9.30 น. เวลาแมดิสัน | 20-21.30 น. เวลาไทย 

ลงทะเบียน Zoom [ทั้งสามวัน]: (http://bit.ly/3WnjTVt)
รายละเอียดในโพสต์ข้างล่างนะคะ
.....
JSEALab (Justice in Southeast Asia Lab)
@jsealab

Unpacking Article 112: Research on Law and Rights in a Time of Crisis in Thailand 

6-8 May 8-9:30 am CST | 8-9:30 pm ICT 

Zoom registration [all 3 days]: http://bit.ly/3WnjTVt 

Join the @a112project to hear about #Article112, law, online life, and rights in Thailand. 
1/5
...
6 May | LAW AND DISCOURSE 

1) Manita Noosawat, CMU 
“Lese Majeste Law: Continuity and changes in repression by law against Thailand pro-democracy movement 2014-2021” 
2) Tracy Beattie, ANU 
#WhyDoWeNeedAKing: A Discourse Analysis of Thailand’s Anti-Monarchy Hashtag Activism”
2/5
...
7 May | FREEDOM OF EXPRESSION 

1) Peeyakorn Leankattava, Ramkhamhaeng “Freedom of Expression vs Privacy Rights: A Comparative Study of Thai and Chinese Laws” 
2) @vmtran, Vrije Universiteit “Platform advocacy and social media’s accountability to FOE in Thailand” 
3/5
...
8 May | PROSECUTION AND BAIL 
1) Khorapin Phuaphansawat, Chulalongkorn University, and Puangchon Unchanam, Naresuan University “The Price of Freedom: Lèse-majesté Persecutions and the Politics of Bailing in Thailand” 
4/5
...
The Article 112 Project 
(@a112project) responds to the lacuna of research and crisis of rights engendered by Article 112 in Thailand through translation, research-led undergraduate and graduate teaching and collaboration based
@jsealab at @uwmadison
5/5

(https://twitter.com/jsealab/status/1786427793301021086)


คลิป อ.ปวิน ชวน อ.ชาญวิทย์ คุยเรื่องธนาธรซื้อบ้านปรีดีที่ปารีส


Ep.98 เปิดบ้านปรีดีที่ปารีส

May 3, 2024 
ท่ามกลางสายฝนที่เกียวโต วันนี้ ดิชั้นได้พบกับอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เดินทางมาเยี่ยมดิชั้นที่นี่ วันนี้ เราคุยกับเต็มๆ หลายเรื่อง เริ่มจากเหตุผลที่อาจารย์มาญี่ปุ่นครั้งนี้ จากนั้นเราคุยกันเรื่องกำหนดการที่อาจารย์จะเดินทางไปกรุงปารีสกลางเดือนนี้ เพื่อร่วมในงานเปิดบ้านอาจารย์ปรีดี พนมยงษ์ ที่คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจได้ซื้อไว้ เพื่อเอามาใช้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์และสถานที่พบกันกันของนักศึกษาไทยที่ฝรังเศส นอกจากนี้ เราคุยถึงเรื่องการเมืองไทยวันนี้ที่สนุกมากค่ะ วันที่ที่เราพบกัน ยังเป็นวันที่ดิชั้นชวนอาจารย์ไปทำบุญให้น้องหมูหยองครบ 49 วันที่จากไป นับเป็นวันที่มีความหมายมากค่ะ 

https://www.youtube.com/watch?v=hNilUuNZxmk


วิจารณ์สนั่น ครูโพสต์ระบาย งง นักเรียนสมัยนี้ทนร้อนไม่ได้ โตขึ้นจะทำอะไรกิน


Feed
16 hours ago·

วิจารณ์สนั่น ครูโพสต์ระบาย งง นักเรียนสมัยนี้ทนร้อนไม่ได้ โตขึ้นจะทำอะไรกิน
.
เพจ “สมัครงาน สอบราชการ” มีการเปิดเผยข้อความครูท่านหนึ่งได้ระบายความในใจถึงนักเรียนว่า
.
“งง เด็กนักเรียนสมัยนี้มันเป็นอะไร
เข้าแถวตากแดดร้องเพลงชาติ สวดมนต์
และฟังครูให้โอวาส บ่นกันว่าร้อน
ถ้าเข้าแถวตากแดดฝึกความอดทนแค่นี้
ยังไม่ได้โตขึ้นพวกเธอจะเรียนจบสูง ๆ
หรือทำงานดี ๆ ได้ยังไง
สมัยครูเมื่อ 20 ปีที่แล้วแดดแรงกว่านี้อีกยังทนกันได้
แต่สมัยนี้ โดนแดดนิด ๆ หน่อย ๆ บ่นว่าร้อน
ตำหนิติติงอะไรก็ไม่ค่อยได้ผู้ปกครองก็เรื่องเยอะ
ถ้าเรื่องเยอะกันนักทำไมไม่สอนเองจะส่งให้เข้าโรงเรียนทำไม
เป็นห่วงอนาคตเด็กไทยสมัยนี้ ไม่รู้โตขึ้นจะเป็นยังไง”
.
เมื่อข้อความดังกล่าวถูกโพสต์ออกไป ก็มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น
-ตากแดด จะทำให้เรียนจบสูง ๆ ได้ทำงานดี ๆ หรอคะ
-ตัวเองลำบาก ไม่จำเป็นที่คนอื่นต้องลำบากแบบตัวเอง
-ถ้าตากแดดดีจัง ทำไมครูไปลงมาตากแดดด้วยกัน
-เด็กที่อื่นที่ไม่เข้าแถวกลางแดด แต่ประสบความสำเร็จ มีเยอะแยะ แดดไม่ใช่ปัจจัยต่อความสำเร็จ
-เด็ก ๆ ไปโรงเรียน เพื่อหาความรู้ครับ ไม่ได้ไปเพื่อโดนอำนาจนิยมกดขี่ ถ้าระบบการศึกษาที้ผ่านมา พาประเทศมาได้แค่นี้ เปลี่ยนบ้างก็ดีครับ ให้โรงเรียนเป็นที่ปลอดภัยของเด็กๆ เถอะ
.
ขอบคุณเพจ : สมัครงาน สอบราชการ
.
#FeedForFuture
.....

นักเรียนเลว
12 hours ago ·

Update: ครูงง เด็กสมัยนี้ไม่ทนแดด แล้วจะเรียนจบสูงได้ไง สมัยครูแดดแรงกว่านี้ยังทนได้

เมื่อวาน (2 พ.ค.) ปรากฎข้อความคาดว่าเป็นครูรายหนึ่ง บนเพจเฟซบุ๊ก ‘สมัครงาน สอบราชการ’ โดยข้อความดังกล่าวมีการตำหนินักเรียนสมัยนี้ที่ไม่มีความอดทนต่อแดดเมืองไทย เนื้อความว่า

“งง เด็กนักเรียนสมัยนี้มันเป็นอะไร เข้าแถวตากแดดร้องเพลงชาติ สวดมนต์ และฟังครูให้โอวาส บ่นกันว่าร้อน ถ้าเข้าแถวตากแดดฝึกความอดทนแค่นี้ ยังไม่ได้ โตขึ้นพวกเธอจะเรียนจบสูงๆ หรือทำงานดีๆ ได้ยังไง สมัยครูเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แดดแรงกว่านี้อีกยังทนกันได้ แต่สมัยนี้โดนแดดนิดๆ หน่อยๆ บ่นว่าร้อน ตำหนิติติง อะไรก็ไม่ค่อยได้ ผู้ปกครองก็เรื่องเยอะ ถ้าเรื่องเยอะกันนักทำไมไม่สอนเองจะส่งให้เข้าโรงเรียนทำไม เป็นห่วงอนาคตเด็กไทยสมัยนี้ ไม่รู้โตขึ้นจะเป็นยังไง”

ทันทีที่ข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก่อให้เกิดกระแสวิจารณ์เป็นวงกว้าง โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ครูคนดังกล่าวขาดความเข้าใจในอันตรายของสภาพภูมิอากาศขณะนี้ และขาดความเห็นใจในฐานะครู

ซึ่งมีรายงานมาแล้วว่าหน้าร้อนไทยปีนี้มีอุณหภูมิสูงกว่าปีก่อน ๆ อันเป็นผลสืบเนื่องมากจากสภาวะภูมิอากาศที่แปรปรวน และปรากฏการณ์เอลนีโญ การยืนตากแดดในหน้าร้อนปีนี้จึงอาจเป็นอันตรายกว่าปีก่อน ๆ

บางประเทศในอาเซียนอย่างฟิลิปปินส์ ได้ประกาศให้โรงเรียนรัฐทั่วประเทศกว่า 47,000 ปิดโรงเรียน และให้เด็กเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้านแทน เนื่องด้วยความร้อนระดับนี้ 'เป็นอันตราย' ต่อสุขภาพประชาชนโดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ

——
#นักเรียนเลว
.....

ประเทศไทยจะยังต้องเผชิญอากาศร้อนไปอีกสักระยะ เป็นเพราะอะไร หาคำตอบในคลิปนี้
(https://www.facebook.com/watch/?v=1470637827224451&t=0)


บีบีซีไทย - BBC Thai
11 hours ago·

แม้เดือน เม.ย. ผ่านไปแล้ว แต่คลื่นความร้อนอาจยังไม่หายไปไหนในเร็ววัน ประเทศไทยจะยังต้องเผชิญอากาศร้อนไปอีกสักระยะ เป็นเพราะอะไร หาคำตอบในคลิปนี้
.
อ่านบทความเพิ่มเติม ที่นี่ (https://bbc.in/44xNePi)


เมื่อ นักข่าว ถาม นายกฯ เรื่อง “อุ๊งอิ๊ง” วิพากษ์ แบ็งค์ชาติ พอฟังคำถามจบ นายกฯ เบือนหน้าหนี แล้วเดินขึันตึกไทยคู่ฟ้า ไปทันที - อุ๊งอิ๊งคงไม่รู้ว่า ความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของประเทศขึ้นกับการทำงานอย่างอิสระ ตรงไปตรงมาของแบงค์ชาติ

https://www.facebook.com/watch/?v=1148031716515286&t=0

Wassana Nanuam
9h ·

เมื่อ นักข่าว ถาม นายกฯ เรื่อง “อุ๊งอิ๊ง” วิพากษ์ แบ็งค์ชาติ

เมื่อ นักข่าว ถาม นายกฯ
เรื่อง “อุ๊งอิ๊ง” วิพากษ์ แบ็งค์ชาติ
.
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีถูกถามกรณีที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงวิสัยทัศน์บน "10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10" พรรคเพื่อไทยว่าธนาคารแห่งประเทศไทย อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
โดยนายกรัฐมนตรี ฟังคำถามจบ ก่อนเบือนหน้าหนี แล้เดินขึันตึกไทยคู่ฟ้า ไปทันที

.....

Puangthong Pawakapan
10 hours ago·

คนเขียนสคริปต์ให้ หวังดีหรือประสงค์ร้ายต่อคุณอุ๊งอิ๊งกันแน่? เราไม่มีปัญหาเมื่อ รบ.วิจารณ์นโยบายของแบงค์ชาติ ใครก็ควรวิจารณ์ได้ แต่ถึงขั้นบอกว่าความเป็นอิสระของแบงค์ชาติเป็นอุปสรรค มันข้ามเส้นความถูกต้องไปแล้ว
อย่าลืมว่าความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของประเทศขึ้นกับการทำงานอย่างอิสระ ตรงไปตรงมาของแบงค์ชาติด้วย แม้แต่ที่อเมริกา ปธน.ไบเดนก็ยังไม่กล้าแตะต้องประธานเฟดเลย ไม่กล้าวิจารณ์/กดดันมากเพราะกลัวจะเกิดไซด์เอฟเฟคต่อเศรษฐกิจ แม้การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในรอบสองปีที่ผ่านมาจะเป็นอุปสรรคต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรบ. เขาก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเฟดที่ประกาศชัดเจนว่าต้องการควบคุมภาวะเงินเฟ้อให้ได้ และเฟดก็ทำงานอย่างโปร่งใสชัดเจน


‘แพทองธาร’ ย้ำ ธปท.เป็นอุปสรรคฟื้นเศรษฐกิจ กดดันรัฐบาลใช้แต่นโยบายการคลัง
(https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1125126)

“แพทองธาร” ย้ำ ธปท.เป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ส่งผลให้ใช้นโยบายการคลังอย่างเดียว ดันหนี้สาธารณะพุ่งสูงขึ้น รัฐบาลต้องจัดงบประมาณขาดดุล

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศทิศทางการทำงานในงาน ‘10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10’ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย สำนักงานใหญ่ การจัดงานครั้งนี้เป็นการแสดงวิสัยทัศน์และความคืบหน้านโยบาย ของพรรคเพื่อไทย หลังจากจัดตั้งรัฐบาลเข้าสู่เดือนที่ 9 พร้อมประกาศเป้าหมายการทำงานในอนาคต

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า กฎหมายพยายามจะให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นอิสระจากรัฐบาล โดยประเด็นนี้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะนโยบายการคลังถูกใช้งานข้างเดียวอย่างหนัก จนทำให้หนี้สาธารณะสูงขึ้นทุกปี จากการที่รัฐบาลต้องตั้งงบประมาณแบบขาดดุล

ทั้งนี้ ในกรณีที่นโยบายการเงินที่บริหารโดย ธปท.ไม่ยอมเข้าใจและร่วมมือ จะทำให้ประเทศไทยจะไม่มีทางลดเพดานหนี้ลงมาได้

อ่านต่อที่ (https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1125126)






 

มีคนฟังอุ๊งอิ๊งอย่างตั้งใจตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วรู้สึกว่าคนเขียนสคริปต์ให้เธอพูดใจร้ายมาก ยัดเยียดอะไรเข้าไปตั้งเยอะแยะ และรำพึงออกมาดังๆ "เธอจะรู้หรือเปล่าว่าพูดอะไรไปบ้าง"


suthichai @suthichai

ฟังคำแถลง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยวันนี้ ต้องหาคนเขียนสคริปต์ทันที

อย่างนี้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายแน่ ๆ

เพราะคนในตำแหน่งนี้และเป็นแคนดิเดตนายกฯด้วย จะปล่อยถ้อยคำเหล่านี้ออกมาทำลายตัวเองทำไม? ตีความได้ว่าไม่รู้เรื่องที่พูดหรือพูดไปโดยไม่เข้าใจความหมายที่พูด

ไม่ว่าเป็นอย่างไหนก็เสียหายสำหรับคนที่เสนอตัวมาเป็นผู้นำประเทศ!

Suthichai Live 19.15 น.
.....






 

ชิปหายแระ 3 ต่อ 1 ยังแพ้


Kasian Tejapira
17h ·

แบกขึ้นบ่าบุกหน้า............แน่วลุย
แบกเขื่องโขข่มคุย...........คาดคั้น
แบกชนดะฉลุย................ฉะแหลก
แบกร่วงลงซะงั้น..............ง่าเงื้อเงิบหงาย


'แพทองธาร ชินวัตร' หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชี้เพราะเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่จึงถูกคู่แข่งใช้วาทกรรมโจมตี แต่พรรคจะพิสูจน์ด้วยผลงาน - ผลโพล 10เดือน เพื่อไทย คลอดแล้ว ได้ 10/100 ทีหลังอย่าริแย่งชิงเค้ามาอีกนะ


The Politics ข่าวบ้าน การเมือง
6 hours ago
·
ผลโพล
...
Crimson Courage Constanza
โอเคค่ะ 10/100
ทีหลังอย่าริแย่งชิงเค้ามาอีกนะ

(https://www.facebook.com/photo/?fbid=847705030731327&set=a.479371834231317)
......

The Politics ข่าวบ้าน การเมือง
7 hours ago
·
'แพทองธาร ชินวัตร' หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชี้เพราะเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่จึงถูกคู่แข่งใช้วาทกรรมโจมตี แต่พรรคจะพิสูจน์ด้วยผลงาน หัวใจที่ทุ่มเทให้ประชาชนเห็น และคนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น
#ThePolitics
ชมคลิปที่
(https://www.facebook.com/watch/?v=1104261114172489&t=0)
(https://www.facebook.com/watch/?v=1104261114172489&t=0)


อ.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต มี 2 วาทะกรรมใหม่ ฝากให้เพื่อไทยคิด คือ 'วาทะลม' พูดไปแบบลมๆ แล้งๆ พูดอย่างทำอีกอย่าง และ 'วาทะอึ่งไข่' พูดซะเสียงดัง แต่พอทำจริงกระดึ๊บไปทีละนิดๆ

https://www.facebook.com/watch/?v=471074645259638&t=0

The Politics ข่าวบ้าน การเมือง
5h·

"รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต" ชี้พรรคเพื่อไทยอยู่ท่ามกลางสงครามวาทกรรมซึ่งส่วนหนึ่งตนเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง พร้อมฝาก 2 คำ 'วาทะลม' พูดไปแบบลมๆ แล้งๆ พูดอย่างทำอีกอย่าง และ 'วาทะอึ่งไข่' พูดซะเสียงดัง แต่พอทำจริงกระดึ๊บไปทีละนิดๆ
#ThePolitics